วันพุธที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ละครสังคีต


ละครสังคีต
ละครสังคีต คือ  ละครแบบหนึ่งที่มีทั้งพูดและร้องเป็นส่วนสำคัญเสมอกัน  จะตัดอย่างใดอย่างหนึ่งออกเสียมิได้  เพราะต่างก็มีถ้อยคำที่เป็นเนี้อเรื่องบรรจุอยู่ทั้งสองอย่าง  เช่น เรื่อง วั่งตี่วิวาห์พระสมุทร  และหนาม-ยอกเอาหนามบ่ง  พระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ ๖  เป็นต้น  ละครแบบนี้ทรงเรียกได้ว่า  “ละครสังคีต”  (Musical  Comedy)
 ความสำคัญของละครสังคีต  ขึ้นอยู่กับ  
๑.      ความไพเราะของเพลง
๒.    มีตัวตลกประกอบ
๓.     มีความงดงามของการแสดงหมู่
๔.     มีฉากที่งดงามตามบท
๕.     เครื่องแต่งตัวงามตามเรื่อง
๖.      มีการล้อเลียนและเล่นได้โลดโผนบ้าง
ละครสังคีตวั่งตี่มีคุณลักษณะที่ว่านี้หลายประการ  เช่น  มีชื่อตัวละครที่ชวนขบขัน  เช่น  พระเอกชื่อเกี้ยมซึงตี่  เจ้าเมืองชื่อ  แฮ่กึ๋ง  ปลัดเมืองชื่อ  ตะเลาเปา  เป็นต้น  มีบทร้องของตัวพระเอกที่บทร้องคมคาย  เช่น  บทร้องเพลงต้อยตลิ่งที่ว่า

“ เสียแรงที่เกิดมาจะพากันโศกไย  สิ่งใดไม่พอใจ  จงขับไปให้ไกลกาย                                                                                                                            
        มาเต้นมารำมาจับระบำ   มาหกคะมำ   ให้ใจสบาย
       อันตัวเรานี้ก็เป็นผู้ชาย   จะมัวมาอาย   ก็ขายหน้าซี
        ถึงเราจำพรากจากยอดนารี   หญิงอื่นก็มี   ดี ดีถมไป
        น่ากอดน่าจูบน่าลูบน่าไล้   ไม่ต้องเสียใจ   หาใหม่ได้เอย ”
               

ส่วนที่เกี่ยวกับเรื่องตลก  จะเห็นได้จากเรื่องหนามยอกเอาหนามบ่ง  บทร้องของเมริแมนกับพวก   ตัวละคร  ในเพลงเทพทอง  ที่ว่า
“ ถ้าแม้อยากเป็นสุขแก้ทุกข์โศก                   เราก็โยกทำนองร้องเล่นขัน
 เล่นตลกบ้าบอพอฮากัน                              โสกระโดกโสกระดันแต่พอควร
ทำเป็นเมาฤทธิ์เหล้าเข้าหลายเท                    เดินโซเซซนไปพอให้สรวน
ไม่พุดหยาบพูดหยามหรือลามลวน               เล่นพอชวนหัวเราะเหมาะเป็นดี ”
                ความไพเราะของบทกลอนในละครสังคีต  จะพบตัวอย่างได้จากเรื่องวิวาห์พระสมุทรตอนไพเราะที่สุด  เห็นจะไม่มีตอนใดเกิน  ตอนที่อันเดรร้องเพลงแสดงความรักต่ออันโดรเมดา  เป็นบทที่มีทำนองพลงและถ้อยคำดียิ่งนัก  ขอยกตัวอย่างมาให้ดู  ดังนี้

เพลงคลื่นกระทบฝั่ง
                “  อันโดรเมดาสุดาสวรรค์                                               ยิ่งกว่าชีวันเสน่หา
          ขอเชิญสาวสวรรค์ขวัญฟ้า                                                  เปิดวิมานมองให้ชื่นใจ
        ถึงกลางวันสุริยันแจ่มประจักษ์                                             ไม่เห็นหน้านงลักษณ์ยิ่งมืดใหญ่
       ถึงราตรีมีจันทร์อันอำไพ                                                       ไม่เห็นโฉมประโลมใจยิ่งมืดมน
      อ้าดวงสุรีย์ศรีของพี่เอ๋ย                                                          ขอเชิญเผยหน้าต่างนางอีกหน
      ขอเชิญจันทร์ส่องสว่างกลางสกล                                           เยี่ยมมาให้พี่ยลเยือกอุรา  ”


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น